Packaging หรือ บรรจุภัณฑ์นั้น คือสิ่งที่สามารถเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าของเราได้ แต่ผู้ประกอบการนั้นมองว่าการพัฒนาหรือทำ Packaging ที่ดีนั้นเป็นการเพิ่มต้นทุนและผลักภาระให้กับผู้บริโภค
สิ่งหนึ่งที่ผู้ประกอบการอาจคิดไม่ถึง นั่นก็คือ Packaging สามารถทำการตลาดแทนเราได้ สื่อสารแทนเราได้ และมีประโยชน์อีกมากมาย เพราะบรรจุภัณฑ์คือการใช้แนวคิดสร้างสรรค์ เพื่อออกแบบวัสดุที่นำมาใช้บรรจุสินค้าให้มีความเหมาะสมกับสินค้าที่เราผลิตขึ้นมา สะดวกต่อการเก็บรักษาและขนส่ง เรามาดูประโยชน์ของ Packaging กันเถอะ
1.ปกป้องและป้องกัน (Protect)
สินค้าภายในบรรจุภัณฑ์เราจำเป็นต้องมีแพคเกจจิ้งที่ดี สามารถปกป้องสินค้าที่อยู่ภายในไม่ให้เกิดความชำรุด เสียหาย และทำให้สินค้าภายในคงสภาพเดิมมากที่สุด เสียหายน้อยที่สุด
2.สื่อสารและให้ข้อมูล (Inform)
ข้อมูลที่ชัดเจน เด่นชัด จะช่วยให้เป็นหนึ่งในช่องทางการตัดสินใจของผู้บริโภคมากขึ้น เช่น ชื่อสินค้า ผลิตจากที่ใด ส่วนประกอบ วันหมดอายุ ข้อมูลทางด้านโภชนาการ เป็นต้น
3.ดึงดูดความสนใจ (Consumer Appeal)
สินค้าชนิดใหม่นั้นเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา การที่จะทำให้สินค้าโดดเด่นและหยิบจับสินค้าของเรานั้น แพคเกจจิ้งนั้นมีอิทธิพลอย่างมหาศาล เพราะถ้าแพคเกจจิ้งสวยงาม ก็อาจเป็นแรงดึงดูดใจให้ซื้อได้ ตัวอย่างเช่น วัสดุ รูปร่าง ขนาด และที่สำคัญต้องดีและมีคุณภาพเพื่อเกิดการใช้ซ้ำและบอกต่อ
4.เพิ่มกำไร (Profit) และสร้างมูลค่าเพิ่ม (Value Added)
นอกจากการทำหน้าที่ปกป้องสินค้าให้คงอยู่สภาพเดิมจากโรงงานแล้ว อีกหนึ่งสิ่งนั่นก็คือสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าเราได้ บางครั้งการสร้างเอกลักาณ์ให้กับสินค้า แพคเกจจิ้งสวยก็อาจทำให้ลูกค้าไม่ได้สนใจว่าข้างในนั้นเป็นสินค้าอะไรแต่ซื้อเพราะแพคเกจจิ้ง และสามารถนำไปเป็นของฝากได้ สิ่งนี้ทำให้เห็นว่าแพคเกจจิ้งก็ช่วยเพิ่มกำไรให้เราได้เช่นกัน
5.โปรโมชั่น (Promotion)
ข้อนี้เป็นข้อดีของการตลาด เพราะแพคเกจจิ้งสวยสามารถถูกสร้างขึ้นตามเทศกาล หรือวันสำคัญได้ เช่นวันปีใหม่ วันสงกรานต์ โดยอาจจัดเป็นรวมสินค้าหลายๆ ชนิดเข้าด้วยกันและสร้างแพคเกจจิ้งขึ้นเพื่อให้ดึงดูดใจ มอบส่วนลด และสร้างยอดขายให้สูงขึ้นในแต่ละเทศกาล